Toey^^

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

เทคนิคจัดปาร์ตี้ที่บ้านให้เก๋ไก๋




เทคนิคจัดปาร์ตี้ที่บ้านให้เก๋ไก๋ (womanstory)

เข้า ช่วงเทศกาลทีไร ก็มักจะมีการเลี้ยงฉลองตบท้ายความสนุกสนนานตลอด ซึ่งเพื่อสร้างความตื่นเต้นและคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม วันนี้จึงมีวิธีการจัดเลี้ยงที่ปรับเปลี่ยนบรรยากาศให้ปาร์ตี้ของคุณไม่จำเจ กับที่เดิม ๆ อีกต่อไปค่ะ

ลองจัดงานเลี้ยงในห้องครัว ถือ ว่าเป็นห้องแหล่งเสบียงของการจัดปาร์ตี้เลยทีเดียว เพราะมีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งพื้นที่ในห้องครัวยังเหมาะกับการจัดอาหารให้เป็นแบบค็อกเทล โดยใช้เคาวเตอร์กลางครัวมาทำเป็นโต๊ะจัดเรียงอาหารนานาชนิด พร้อมทั้งเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้คุณเพลิดเพลินกับปาร์ตี้แบบไม่ขาดเครื่องดื่ม พร้อมมีเครื่องแกล้มอยู่ตลอดอีกด้วย

แสงเทียนเพิ่มความสบายอารมณ์ เป็น อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูสบายตา ผ่อนคลาย ประจำปาร์ตี้เลย โดยเฉพาะปาร์ตี้ยามค่ำคืน ด้วยความละมุนละไมของแสงเทียน

ใช้ของตกแต่งเป็นสีเงิน และสีเทา สีเงินและสีทองเป็นสัญลักษณ์แทนการเฉลิมฉลองจากเทศกาลแห่งความสุข การ นำสิ่งของแห่งความสุขและโชคดีแบบนี้มาตกแต่งช่วยสร้างบรรยากาศได้ดี แค่เชิงเทียนสีเงิน กากเพชร แก้วใสๆ โบสีทอง และความวิบไหวของเปลวเทียนก็ช่วยเพิ่มความหรูหราที่โรแมนติกได้ โดยเฉพาะปาร์ตี้คู่รักพร้อมไวน์รสเยี่ยม

ไฟวิบวับ การเปิดระยิบระยับขึ้นเมื่อใดก็แสดงว่างานปาร์ตี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โมบายไฟที่นำมาตกแต่งช่วยเปลี่ยนมุมเดิมๆ ของบ้านให้กลายเป็นมุมปาร์ตี้ขึ้นมาทันที

เน้นการใช้ลูกเล่นของสีสัน ควรสร้างบรรยากาศด้วยของใช้หลากสี ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร พยายามเลือกสรรของสีสวยจากที่เก็บซ่อนอยู่ในตู้ออกมาใช้กันแบบเป็นหมวดเป็น หมู่ หรือเป็นขบวนพาเรดสีก็ได้ เพื่อให้จังหวะของหัวใจเต้นเร็วขึ้น

ประดับด้วยกิ่งไม้ ลอง เปลี่ยนมาใช้กิ่งไม้แห้งทาสีขาวราวกับหิมะโปรยคลุมอยู่ แล้วเลือกของตกแต่งสีแวววาว ดวงดาวและลูกกลมประดับก็ได้บรรยากาศ แถมยังดูทันสมัยเหมาะกับบ้านของคนรุ่นใหม่ด้วย

ธงหลากสี ถึง แม้ว่าปาร์ตี้ของเราจะไม่ใช้งานวัด แต่ก็สามารถใช่ธงอันเล็กๆ น่ารักๆ และมีสีโทนพาสเทลสักหน่อยมาแต่งรอบงาน ก็จะได้มุมน่ารักไปอีกแบบ

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/52139

แดน ปัด แพทตี้ ตามหึง จีจี้ เฝ้ากองถ่าย

แดน วรเวช

แดน วรเวช


แดน ปัด แพทตี้ ตามหึงจีจี้ เฝ้ากองถ่าย (ไอเอ็นเอ็น)

"แดน" รับ "แพทตี้" มาเฝ้ากองถ่ายเรื่องปกติของคนเป็นแฟน ปัดหึง "จีจี้" ออกหน้าออกตา เผยฉากจูบฝ่ายหญิงเข้าใจ ให้กำลังใจ "ฟิล์ม" ฉาว สู้ ๆ

มีข่าวว่าสาว "แพทตี้ อังศุมาลิน" นางเอกสาวนอกจอของนักร้องหนุ่ม นักแสดงหนุ่ม เกิดอาการหึงนางเอกน้องใหม่ "จีจี้ จอมขวัญ" ขั้นหนัก ยอมลงทุนตามไปเฝ้าฝ่ายชายยังกองถ่ายละคร "สืบสวนป่วนรัก" เรื่องนี้จะจริงหรือไม่ หนุ่ม "แดน วรเวช""แดน" เผยว่า….

แดน : ไปหาที่กองละครมีครับ ไม่มีอะไรจริง ๆ แค่ข่าวที่เป็นประเด็นเท่านั้น สองคนนั้น ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ

ในละครมีฉากจูบด้วย เขาว่าไงบ้าง

แดน : เขาเข้าใจดีครับ ผมเล่นบทบาทนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นเรื่องปกติของการแสดง

เขาเชื่อใจ

แดน : ก็ควรจะเชื่อใจในสิ่งที่ผมทำ ผมก็ทำงาน 7 วัน ไม่ค่อยมีเวลา ถ้าน้องว่างอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นก็ไปหาบ้าง


แพท อังศุมาลิน

แพทตี้


จากนั้นผู้สื่อข่าว ได้แย็บถามถึงหนุ่ม "ฟิล์ม รัฐภูมิ" อดีตเพื่อนร่วมงานสังกัดเดียวกัน ซึ่งกำลังมีข่าวฉาวอยู่ในขณะนี้ นักร้องหนุ่มผิวเข้มได้แต่ให้กำลังใจ สู้ ๆ

แดน : ให้กำลังใจฟิล์ม ผมเพื่อนร่วมวงการนะครับทำได้แค่สู้ๆ ต่อไป ทุกอย่างจะดีขึ้นครับ

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/52125

5 โรคอินเทรนด์ ของหนุ่มสาวดาวน์ทาวน์

โรค อินเทรนด์

5 โรคอินเทรนด์ ของหนุ่มสาวดาวน์ทาวน์ (Twenty-Four Seven)

ไลฟ์สไตล์ในเมืองใหญ่อาจสร้างสรรค์ภาพลักษณ์ ความหรูหราไฉไลให้หนุ่มสาวในเมืองดูอินเทรนด์ แต่การจะมีความสุขสมบูรณ์แบบ ต้องเกิดร่วมกันทั้งจากปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายใน โดยเฉพาะความแข็งแรงของสุขภาพร่างกาย ที่มักมีสาเหตุเล็ก ๆ แต่ให้ผลน่าหนักใจในระยะสุดท้าย

อย่าให้เวลาหลาย ๆ ปี แห่งการละเลย เป็นต้นเหตุให้ชีวิตหมดสนุกในอนาคต หันมาตระหนักถึงภัยร้ายของเทคโนโลยี แล้วใช้ชีวิตให้ปลอดภัยกับข้อเท็จจริง และวิธีแก้ไขจาก 5 โรคอินเทรนด์ของหนุ่มสาวดาวน์ทาวน์ ที่เรานำมาฝากกันเถอะ เพื่อให้ชีวิตของคุณได้เต็มที่กับทุกดีกรีสีสันและกิจกรรม ในแบบดาวน์ทาวน์ได้ตลอด 365 วัน

อันดับที่ 1 : โรคเครียด

จากผลการวิจัยของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2549 คนไทยมีแนวโน้มเป็นโรคเครียดในระดับสูงมากถึง 8% เครียดระดับปานกลาง 33% และเครียดระดับน้อย 57% โดยหนุ่มสาวในช่วงอายุ 25-35 ปี ซึ่งกำลังก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีสถิติสูงที่สุด

ความเครียดส่งผลให้นอนไม่หลับเลยวิตกกังวล จนกระทั่งอาเจียน เครียดลงกระเพาะอาหาร ปัสสาวะบ่อยจนกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นไมเกรนหรือลุกลาม ถึงขั้นเป็นโรคหัวใจ ส่วนผลกระทบทางด้านจิตใจ เช่น เกิดความกังวลตลอดเวลา ลนลานอย่างหนัก กังวลจนสมาธิไม่มี อารมณ์เสีย หงุดหงิด ฯลฯ หากปล่อยทิ้งไว้นานจะพัฒนาไปสู่โรคเครียดเรื้อรังได้

เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย

ผ่อนคลายความเครียดทางร่างกาย เริ่มง่าย ๆ ด้วยการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย จะช่วยให้การทำงานของระบบเลือดหัวใจ และสมองดีขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ลดคาร์โบไฮเดรต และแอลกอฮอล์ หรือจัดสภาพแวดล้อมในที่ทำงานใหม่ เช่น จัดให้มีมุมนั่งเล่นในสวนสวย มุมทำสมาธิ มุมรับประทานอาหารว่าง มุมดูหนังฟังเพลง บริการนวดคลายเครียดในที่ทำงาน

อันดับที่ 2 : โรคระบบทางเดินหายใจ

มล ภาวะเป็นพิษ สาเหตุหลักของโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคปอด ไซนัส หวัด ภูมิแพ้ องค์การอนามัยโลกรายงานว่า โรคที่คร่าชีวิตคนทำงานมากที่สุดในปัจจุบันคือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โดยมีอัตราเสี่ยงสูงถึง 10% ของคนทั้งโลก นอกจากนี้รายงานทางการแพทย์ของไทยยังพบว่าคนกรุงเทพฯ มีอัตราผู้ป่วยภูมิแพ้สูงถึง 50% ต้นเหตุแห่งมลพิษก็มาจากโรงงานอุตสาหกรรม ไอเสียจากรถยนต์ที่มีปริมาณ มากขึ้นทุกวัน

อาการเบื้องต้นจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย โดยไม่ได้มาจากการเจ็บป่วย หายใจไม่สะดวก ป่วยกระเสาะ-กระแสะ เหมือนเป็นไข้หวัดตลอดเวลา คัดจมูก น้ำมูกน้ำตาไหล แต่ไม่มีไข้

เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย

เราสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลารถติด พักอาศัยอยู่ในที่อากาศถ่ายเทหรือไปสูดอากาศนอกเมืองบ้าง และออกกำลังกายเป็นประจำ

อันดับที่ 3 : ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ

การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ทำให้ตาพร่ามัวรังสีจากหน้าจอทำให้กล้ามเนื้อตาตึงเครียด อาการเหล่านี้หากทิ้งไว้นานจะมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย กล้ามเนื้อเมื่อยล้าเป็นอาการเครียดของกล้ามเนื้อเมื่อใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ เช่น การกดแป้นคีย์บอร์ด ทำให้ข้อกระดูกนิ้วเสื่อม กล้ามเนื้อไหล่ตึง และเจ็บปวด การขยับเมาส์ไปมา ทำให้ปวดกระดูกข้อมือ อาจเกิดพังผืดที่โพรงเส้นประสาทข้อมือหรืออุโมงค์ข้อมือ หากทิ้งไว้นานอาจ
ปวดเรื้อรังถึงขั้นพิการ

เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย

อาการ เหล่านี้บรรเทาด้วยการพักสายตา หลับตาหรือมองต้นไม้ใบหญ้าจะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้ อาการเกี่ยวกับข้อมือ ควรพักข้อมือ รับประทานยาแก้ปวด ถ้าอาการหนัก อาจต้องสวมอุปกรณ์ประคองข้อมือ หรือฉีดยาเพื่อลดอาการเจ็บปวด

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาได้คือ ปรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับสรีระ เช่น ใช้แผ่นป้องกันแสง เพื่อป้องกันรังสี หรือเลือกใช้จอถนอมสายตา ควรปรับแสงสว่างหน้าจอให้เหมาะกับช่วงแต่ละเวลาด้วย ขณะใช้คีย์บอร์ดและเมาส์ให้วางท่อนแขนขนานกับพื้น มีแผ่นรองข้อมือเพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวและการเสียดสี ปรับระดับเก้าอี้ให้นั่งสบาย ขาตั้งฉากกับพื้น ซึ่งถือเป็นท่าที่ถูกต้อง

อันดับที่ 4 : โรคนอนไม่หลับ

การนอนไม่หลับ นอนหลับยาก นอนหลับ ๆ ตื่นๆ หรือสะดุ้งขึ้นมาและนอนหลับต่อไม่ได้ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อาหาร รูปแบบการใช้ชีวิต การเจ็บป่วย การใช้ยา ความเครียด ความกังวล ฯลฯ คนส่วนใหญ่ มักเป็นอยู่ 2-3 วัน แล้วจะหายไปเอง แต่บางรายที่นอนไม่หลับเป็นระยะเวลานานติดต่อกันเป็นสัปดาห์ขึ้นไป หากปล่อยไว้นาน ๆ จะมีอาการเรื้อรัง กระทั่งส่งผลเสียร้ายแรงต่ออารมณ์ ความจำ การตื่นตัว ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา และไม่มีแรง บางครั้งกลายเป็นโรคซึมเศร้าด้วย

เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย

เปลี่ยนพฤติกรรม เช่น พยายามนอนและตื่นเวลาเดิมทุกเช้า ไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม ออกกำลังกาย ผู้ที่วิ่งหรือออกกำลังกายวันละ 40 นาที จะหลับลึกนานกว่าคนทั่วไป แต่ถ้าหากเป็นนานกว่า 2 สัปดาห์ หาสาเหตุชัดเจนไม่ได้ และรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย จนไม่สามารถทำงานได้ หลับบ่อยครั้งในระหว่างวัน ควรไปพบแพทย์

อันดับที่ 5 : โรคปลายประสาทอักเสบ

เกิดจากความผิดปกติของประสาทส่วนปลาย เป็นผลจากโรคเครียดและกล้ามเนื้ออักเสบ การได้รับสารพิษ หรือโลหะหนักอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการนั่ง ยืน หรือท่ายกของอย่างไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน ๆ จนเกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแต่บริเวณคอ ลงไปที่ไหล่ เรื่อยถึงกระดูกสันหลัง และช่วงเอว ทำให้ทรงตัวไม่ได้ ร่างกายอ่อนปวกเปียก ชาตามปลายนิ้วมือนิ้วเท้า หากปล่อยไว้กล้ามเนื้อจะลีบ เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ โรคนี้พบบ่อยในคนทำงานนั่งโต๊ะ รวมทั้งคนที่อาศัยในเขตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริเวณที่มีมลพิษหนาแน่น

เปลี่ยนพฤติกรรม…กำจัดโรคร้าย

ป้องกันได้โดยการนั่ง ยืน เดิน ในท่าที่ถูกต้อง นวดคลายกล้ามเนื้ออยู่สม่ำเสมอ อยู่ในที่ที่สภาพแวดล้อมดี อากาศดี

ก่อน ที่จะอินสุด ๆ กับกระแสดาวน์ทาวน์ ควรหันมาดาวน์โหลดความสมบูรณ์ให้ร่างกายกันก่อน เพราะให้โลกเจริญก้าวไกลอย่างไร ให้รวยติดอันดับไหนของโลก ก็ไม่สำคัญเท่าวันสุดท้ายของชีวิตที่เราได้มีสุขภาพแข็งแรง จริงไหม

ที่มา http://health.kapook.com/view7407.html

ผลวิจัยชี้ โทรศัพท์มือถือ สกปรกกว่าส้วม!!



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


นักวิจัยอังกฤษเผยผลสำรวจ โทรศัพท์มือถือแหล่งซ่องสุมแบคทีเรีย ชี้สกปรกมากกว่าที่กดชักโครกเฉลี่ยถึง 18 เท่า !!

นักวิจัยอังกฤษ เปิดเผยผลสำรวจสุขอนามัยบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือโทรศัพท์มือถือ ที่ปัจจุบันเป็นเหมือนอวัยวะที่ 33 ของใครหลายคน โดย จากกลุ่มตัวอย่าง โทรศัพท์มือถือ 30 เครื่อง พบว่า เกือบ 1 ใน 4 มีแบคทีเรียมากกว่าระดับที่กำหนด 10 เท่า และมากกว่าที่กดชักโครกในห้องน้ำชายเฉลี่ยถึง 18 เท่า!!!

สำหรับ เชื้อแบคทีเรียที่พบบนโทรศัพท์มือถือ มีชื่อว่า "ทีวีซี" ซึ่งเป็นเชื้อที่ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายทันที แต่หากพบเชื้อนี้ในระดับสูง อาจทำให้เจ้าของมือถือ ปวดท้องหรือท้องเสียได้ เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียจากมือจะไปติดบนมือถือ และอาจสลับไปสลับมาจนไปลงเอยด้วยการหยิบอาหารเข้าปาก หรือไปจับอวัยวะส่วนอื่น เช่น ปาก หรือตา จนก่อให้เกิดโรคได้

จิ ม ฟรานซิส ผู้ทำการวิจัยระบุว่า ชาวอังกฤษ 14.7 ล้านคน เสี่ยงต่อสุขภาพ เพราะมือถือสกปรก โดยเครื่องที่สกปรกที่สุด พบว่ามีแบคทีเรียเกินระดับที่กำหนดถึง 39 เท่า ซึ่งเป็นแบคทีเรียกลุ่มที่อยู่ในลำไส้ส่วนปลายของมนุษย์และสัตว์ อันจะทำให้เกิดโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษ

ที่มา http://health.kapook.com/view15447.html

ศธ.เตรียมเชือด ร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

กรณีที่มีผู้ได้รับผลกระทบจากร้านเหล้าปั่นและร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รอบมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม เขตจตุจัตร ได้ร้องเรียนไปยัง นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กันยายน นายไชยยศ กล่าวหลังจากลงตรวจพื้นที่ว่า คงต้องเร่งผลักดันอนุบัญญัติ เรื่องการควบคุมเหล้าปั่นและการควบคุมร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ในรัศมี 500 เมตร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ คณะกรรมการนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ หากคณะกรรมการเห็นชอบ ก็จะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามและมีผลบังคับใช้

ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือการนำกฎหมายที่มีอยู่บังคับใช้อย่างจริงจังและให้เกิดประสิทธิภาพ เพราะแม้กฎหมายจะครอบคลุม แต่ก็ยังขาดเรื่องของการกำหนดพื้นที่ห้ามขายรอบสถานศึกษา ซึ่งหมายถึงการห้ามออกใบอนุญาตให้กับร้านที่อยู่ใกล้สถานศึกษาด้วย ขณะเดียวกันยังมีร้านเหล้าอีกหลายแห่งที่นักศึกษาแต่งเครื่องแบบเข้าไปดื่มเหล้า โดยที่ไม่สนใจว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้น ผู้ปกครองและอาจารย์คงต้องช่วยสอดส่องและคอยตักเตือนบุตรหลานด้วย

ขณะ ที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสียงส่วนใหญ่ต้องการให้บังคับ ใช้มาตรการห้ามขายเหล้าปั่นและห้ามขายเหล้า รอบ ๆ สถานศึกษาเป็นจำนวนมาก และจากการออกตรวจร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา พบว่ายังมีการฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เยาวชน นิสิต นักเรียน นักศึกษา อย่างไรก็ตาม หากใครพบเห็นการทำผิดกฎหมาย สามารถโทรแจ้งได้ที่ 0-2590-3342 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/52143

5 ความคิดผิด ๆ ชวนปวดหัว เรื่องการออกเดท

ความรัก

5 ความคิดผิด ๆ ชวนปวดหัว เรื่องการออกเดท (Hair)

มีสาว ๆ จำนวนไม่น้อยที่คิดว่า "ทำไมการออกเดทกับหนุ่มสักคนจึงน่าปวดหัวเช่นนี้" น่าปวดหัวตั้งแต่เริ่มคิดก็ว่าได้...จะทำอย่างไรให้ได้เดทกับเขา เมื่อได้เดทครั้งแรก แล้วจะทำอย่างไรให้มีครั้งต่อ ๆ ไปตามมา

แม้ การเดทจะมอบความตื่นเต้นที่คุณจะได้วาดฝันถึงอนาคต แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้คุณประหม่ากลัวว่าสิ่งที่กำลังไปได้สวยจะพังลงด้วยมือ คุณเอง ครั้นจะหาตัวช่วยก็ไม่มีกฎตายตัวที่จากรันตีความสมหวังกับการออกเดทเสียอีก เพื่อนจึงเป็นทางออกสุดท้ายที่คุณสาว ๆ ชอบเก็บเล็กเก็บน้อยจากการออกเดทไปเล่าสู่กันฟัง แล้วเพื่อนผู้หวังดีก็จะบอกว่าคุณควรทำอย่างโน้น ควรทำอย่างนี้ สิ่งนั้นไม่ควร สิ่งนี้ไม่ควร ซึ่งเหล่า นี้คือ ความเชื่อผิด ๆ เรื่องการออกเดทที่สาว ๆ มักฝังหัวบอกต่อ ๆ กันมา ที่คุณเองก็น่าจะได้รับการแนะนำจากเพื่อน ๆ มาแล้วอย่างน้อยหนึ่งข้อเช่นกัน

ผู้หญิงต้องสงวนท่าที แล้วปล่อยให้ผู้ชายเป็นฝ่ายรุก

ทั้งที่อยากจะเริ่มสานสัมพันธ์ชวนเขาออกเดทใจจะขาด แต่ถ้าคุณยังติดกับดักความคิดที่ว่า ผู้หญิงต้องสงวนท่าที ไม่ควรเริ่มต้นก่อน ก็ลองคิดดูว่าเวลาหิวคุณจะหาอะไรรับประทานไหม เมื่อความหิวไม่สามารถหยุดยั้งคุณ จากการหาอาหารรับประทานได้ฉันใด ก็อย่าปล่อยให้ความคิดนี้ทำคุณพลาดโอกาสดี ๆ จากการออกเดทฉันนั้น

และอย่าสับสนระหว่างการสงวนท่าที ความอาย กับความกลัวเสียหน้าที่จะถูกปฏิเสธ เพราะหนุ่ม ๆ เขาก็กลัวเสียหน้าเหมือนกัน การเดทคือความเสี่ยงที่อาจจะไปได้สวยหรืออาจจะไปแล้วเสีย ทางเดียวที่จะรู้ได้ว่าจะออกหัวหรือก้อยก็คือต้องให้โอกาส อย่ากลัวที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้น หากคุณไม่พูด คุณก็ไม่ได้ออกเดท แต่ถ้าคุณพูดก็มีโอกาสที่เขาจะตอบตกลง

ไม่เสียหายถ้าจะรับหรือส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือระหว่างออกเดท

ในยุคที่คุณอยู่ในเครือข่ายที่จะติดต่อกับใคร ๆ ก็ได้ในทุกเวลาที่ต้องการผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะรับสาย ส่งข้อความอักษร ภาพ หรือแม้แต่เช็คอีเมล์ ไม่แปลกที่จะเห็นคนเดินคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ทั่วไป แต่ลองนึกย้อนไปสมัยที่โทรศัพท์มือถือยังไม่แพร่หลายมากนัก การคุยโทรศัพท์มือถือในสถานที่สาธารณะบางแห่งยังเป็นสิ่งที่ต้องกระมิด กระเมี้ยนทำ เพราะเกรงจะไปรบกวนคนอื่น ซึ่งคุณก็ควรจะคิดแบบนี้เช่นกันในการออกเดท โดยเฉพาะกับเดทแรก สิ่งที่ทั้งคุณและเขาควรทำก็คือปิดรับการสื่อสารทุกชนิด สนุกสนานกับการเดทและพูดคุยกันแบบไม่ต้องมีสิ่งใดมารบกวน

ถ้าคุณอยากชวนเขาออกเดทครั้งที่สอ งควรทิ้งเวลาเพื่อดูท่าทีสัก 3 วัน

มีบริษัทไหนทิ้งเวลาสามวันแล้วค่อยโทรบอกผู้มาสมัครงานว่ารับพวกเขาเข้าทำ งานแล้วบ้าง ไม่มีแน่นอน เพราะหากรอก็อาจชวดได้ เช่นเดียวกันกับการออกเดท หากคุณอยากเทดกับเขาเป็นครั้งที่สอง ก็วางแผนแล้วโทรหาเข้าได้เลย โดยอาจจะเอ่ยถึงเดทครั้งแรกด้วย เพื่อเป็นการบอกว่าคุณรู้สึกประทับใจและสนุกสนานเพียงใดยามอยู่กับเขา ถ้าบรรยากาศในการออกเดทครั้งแรกไม่แย่หรือน่าเบื่อจนเหลือกำลัง มีหรือที่เขาจะปฏิเสธ

กิจกรรมที่ควรทำยามออกเดท คือ กินข้าว ดูหนัง

ในความเป็นจริงแล้วมีกิจกรรมน่าสนใจอยู่ล้านแปด เลิกคิดถึงแค่สองกิจกรรมพื้นฐานอย่างกินข้าว ดูหนัง แล้วดูว่าคุณกับเขามีความสนใจร่วมกันเรื่องใด อาจจะไปเล่น-ไปชมกีฬา, ชมอะควาเรียม, เที่ยวทะเล, เข้าคลาสเรียนทำอาหาร ฯลฯ การทำกิจกรรมที่แปลใหม่ไม่เพียงทำให้ได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น ได้รู้จักตัวตนของเขามากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความกระอักกระอ่วนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างดินเนอร์ใต้แสงเทียน ด้วย

ให้ฝ่ายชายจ่ายคนเดียว

ในการออกเดทโดยเฉพาะเดทแรก ผู้ชายมักออกตัวเป็นฝ่ายรับค่าใช้จ่าย อาจจะค่าดูหนัง ค่าเดินทาง ค่าอาหารให้คุณ เพื่อแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ หากเป็นเมื่อห้าสิบปีก่อนนี่อาจจะเรื่องปกติ แต่ยุคสมัยนี้ทั้งหญิงและชายต่างทำงานมีรายได้เหมือนกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะช่วยแชร์ค่าใช้จ่าย เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องรู้สึกผูกมัดไปกับเขา และผู้ชาย บางคนก็จ่ายเพราะหวังสิ่งตอบแทนจากคุณอีกด้วย

อย่าง ไรก็ตาม การเดทที่จะไปได้สวยก็คือ คู่เดทจะต้องมีเคมีที่เข้ากัน และอย่าฟังคำแนะนำของเพื่อน ๆ มากจนเกินไป เพราะเพียงคุณเท่านั้น ที่รู้ว่า สิ่งใดดีที่สุด เพราะเพื่อน ๆ ไม่ได้ไปเดทร่วมกับคุณและเขานี่นา


ที่มา http://women.kapook.com/view16919.html

เรียนรู้สนุกผ่าน น้ำ&ทราย

ทะเล

เรียนรู้(สนุก) ผ่านน้ำ&ทราย (modernmom)
โดย: ชาดา

ไปเที่ยวทะเลก็สามารถเรียนรู้ผ่านการเล่นกิจกรรมต่าง ๆ ได้

ถ้าไปทะเลแล้วได้ยินแต่เสียงคุณพ่อคุณแม่ร้องเสียงหลง ห้ามลูกทำนั่นทำนี่ คงจะหมดสนุกแน่ ๆ ลองดูดี ๆ สิคะ ไม่เห็นมีอะไรจะต้องห่วงเลย

คุณทราย - ช่วยหนูเรียนรู้เรื่องรูปทรง แถมยังได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กจากการหยิบจับ ขยำ ส่วนจินตนาการจะตามมาจากการเล่นก่อกองทรายเป็นรูปต่าง ๆ

คุณน้ำ - ได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของแข็งคือทรายที่เม็ดหยาบแข็ง ส่วนน้ำปวกเปียกก็คือของเหลวนั่นเอง แถมยังเปลี่ยนสถานะ จากของเหลวเป็นของแข็งได้เพียงนำไปแช่ช่องแช่แข็งในตู้ เย็น

6 กิจกรรมสนุกที่ริมทะเล

1. ปราสาททรายแสนสวย

สร้างปราสาทด้วยพลั่วตักทราย กระป๋อง ช้อน ถ้วย อัดทรายใส่ถ้วยแล้วคว่ำ หรือใช้แม่พิมพ์กดเป็นคุณหมี คุณแมว แต่งด้วยเปลือกหอย หรือหากกระดาษมาทำธงประจำตระกูล จะให้ปราสาทสูงปรี้ดหรือตกแต่งยังไงก็ได้ตามใจชอบ

ผลพลอยได้ : งานนี้ช่วยกระตุ้นจินตนาการของเจ้าหนูให้บรรเจิดดีเชียว

2. แม่ค้าริมทะเล

เล่นขายของ ปูผ้าเช็ดตัวแสดงอาณาเขตร้าน "นี่ร้านหนู" "นี่ร้านแม่" จะขายอะไรก็ได้ไม่ว่าจะ ขายเปลือกหอยชายหาด ขายอาหารใช้ทรายเป็นส่วนประกอบหลัก ตักใส่ถ้วย ตักใส่กระป๋อง "ซื้อข้าวผัดกี่บาทคะคุณพ่อ"

ผลพลอยได้ : นอกจากจะได้เรียนคณิตศาสตร์แล้วยังได้ฝึกใช้ภาษา การใช้คำพูดโต้ตอบ คุณพ่อคุณแม่เช็คพัฒนาการของลูกน้อยได้เลยค่ะว่า พัฒนาการด้านภาษา การเข้าสังคม เป็นอย่างไรบ้าง

3. วาด ๆ ป้าย ๆ แสนสนุก

ชวนลูกวาดรูปบนผืนทราย ใช้นิ้วมือเล็ก ๆ เป็นดินสอ วาดเสร็จก็ตกแต่งด้วยเปลือกหอย ก้อนหิน ใบมะพร้าว หรืออยากเร่งเรียนไปในตัวก็ชวนกันเขียน ก-ฮ ตัวเลข หรือวาดตัวการ์ตูนที่ชอบ แต่ถ้าอยากมีรูปภาพเก็บกลับบ้านด้วย ก็ใช้เฟรมผ้าใบที่เตรียมมา มาทะเลทั้งที่ใช้ทรายนี่ล่ะค่ะตกแต่งรูปภาพ ถ้าอยากได้ทรายสีก็แค่ย้อมสีทรายง่าย ๆ ใช้สีผสมอาหารผสมน้ำแล้วค่อยเทลงในทรายคนจนทรายเป็นสี ตากแดดให้แห้ง เท่านี้ก็ได้ทรายสีแล้วค่ะ (แต่อย่าโดนน้ำล่ะเดี๋ยวสีหายหมด) หรือจะระบายสีทับไปเลย เก็บเปลือกหอยอันเล็กมาตกแต่ง สมบูรณ์แบบสุด ๆ เลยล่ะ

ผลพลอยได้ : เด็ก ๆ ชอบวาดรูป ให้ลองใช้สีน้ำดูนะคะ เด็กๆ น่าจะถูกใจชอบมากค่ะ แถมยังนำงานศิลป์ของตัวเองมาทำต่ออีก เป็นการต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการที่ดีเชียวค่ะ

4. บินร่อนแปลงกาย

แปลงกายเป็นซูเปอร์แมนหรือซูเปอร์เกิร์ล เหาะอยู่เหนือน้ำโดยมีมือคุณพ่อคอยประคองตัวไว้ เหวี่ยงไป-มา แต่อย่าแรงจนเวียนหัวนะคะ ให้มือลูกระน้ำหน่อย ๆ ชอบใจใหญ่แน่ ๆ

ผลพลอยได้ : ได้กระตุ้นจินตนาการ และบทบาทสมมติแบบไม่กั๊กเพราะมีคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุน รวมทั้งเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย

5. โป้งแปะริมทะเล

คุณพ่อเมื่อยแขนก็เปลี่ยนมาชวนคุณแม่วิ่งไล่จับ "โป้งแปะใคร คนนั้นเป็น" วิ่งในน้ำทะเลปริ่ม ๆ ข้อเท้านี่ล่ะแรงต้านเยอะ ได้กำลังขาดีเชียว หรือจะชวนกันเดินในน้ำทะเล แข่งกันเตะว่าน้ำของใครกระเพื่อมมากกว่ากันก็ได้ พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ดี

ผลพลอยได้ : ออกกำลังริมหาดทรายร่างกายแข็งแรง พ่วงด้วยอากาศสดชื่นดีกับปอดค่ะ

6. แฟมิลี่แบนด์

หาขวดมาใส่น้ำ 4-5 ขวด ขวดหนึ่งใส่น้ำไว้เต็ม ขวดต่อมาก็ลดปริมาณลงมาเรื่อย ๆ จนไม่ใส่น้ำเลย เตรียมอุปกรณ์อย่างเช่น ไม้ ตะเกียบ ฯลฯ จากบ้านมาเคาะเข้าจังหวะด้วย ถังน้ำใบเล็กก็ใช้ได้ดีค่ะ ตั้งวงดนตรีกันคุณพ่ออาจจะเริ่มเคาะก่อน แล้วลูกเคาะตาม อย่าเพิ่งกังวลเรื่องจังหวะค่ะ เพราะสิ่งที่ได้กลับคุ้มค่ากว่านั้นคือและเสียงเพลงที่ขาดเกิน บวกกับท่าเต้นรำเฮฮาปาจิงโกะ ใครเห็นเป็นต้องอิจฉาเพราะสุขภาพจิตดีทั้งบ้าน

ผลพลอยได้ : สุขภาพจิตที่ดีส่งผลให้สุขภาพกายที่ดี เมื่อเด็กๆ อารมณ์ดีเขาก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างไม่หยุดยั้ง

Safety on the Beach...

ก่อนลงทะเลควรทาครีมกันแดด (for child) ก่อนทุกครั้งและทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง

เวลาที่เหมาะลงทะเลคือก่อน 10.00 น และ หลัง 16.00 น.

อย่าให้ลูกลงน้ำตามลำพัง แล้วอย่าแช่ตัวอยู่ในน้ำทะเลนานๆ ด้วย

หลังเล่นน้ำทะเลพักผิวสักครู่ เพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิให้หายร้อนก่อน แล้วค่อยอาบน้ำแบบสะอาดสุดๆ

ถ้ามีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันไปด้วย ต้องระวังอย่าให้เล่นขว้างทรายใส่กันเป็นอันขาด เกิดทรายเข้าตาหมดสนุกแน่ ๆ

ที่มา http://women.kapook.com/view16929.html

เกลือทะเลบำบัดเครียด กำจัดเซลลูไลท์

เคล็ดลับสุขภาพ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

เคยได้ยินมาว่า ชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่มีต้นกำเนิดมาจากทะเลด้วยกันทั้งนั้น แต่ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม ที่แน่ ๆ คือ ของ ขวัญจากทะเลที่เรียกว่า "เกลือ" นี่ล่ะค่ะ ที่สามารถช่วยคุณต่อสู้กับความเครียดและเซลลูไลท์ได้ เอ้า.. ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่แหละคือเรื่องจริง

เริ่มจากการต่อสู้กับความเครียดกันก่อน เกลือทะเลสามารถทำให้คุณผ่อนคลายได้พอ ๆ กับกลิ่นหอมของน้ำมันอโรมาเลยทีเดียว คุณ ๆ รู้ไหมว่า การอาบน้ำทะเลสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งนั้น ช่วยลดความเครียดได้


เกลือทะเล

แต่ถ้าคุณไม่ สามารถไปทะเลได้บ่อยขนาดนั้นล่ะก็ เพียงแค่นำเกลือทะเล 300 กรัมมาผสมกับน้ำในอ่างแล้วนอนแช่อยู่อย่างนั้นประมาณ 10-15 นาที ก่อนล้างตัวให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น เกลือทะเลจะช่วยในการบำบัดความเครียดและยังทำให้ผิวดูนุ่มขึ้นอีก

ส่วนการป้องกันเซลลูไลท์ด้วยเกลือทะเลนั้น หากคุณอยากกำจัดเซลลูไลท์แต่ไม่มีเวลามากพอ ให้ใช้เกลือทะเลเป็นสครับขัดผิว โดยใช้เกลือทะเล 1 แก้ว ผสมกับน้ำมันอโรมา 1 ช้อนชา แล้วทิ้งไว้อย่างนั้น 20 นาที ก่อนนำมาขัดผิวแล้วนวดให้ทั่วร่างกาย และระหว่างขัดผิวนั้นให้คุณพรมน้ำไปเรื่อย ๆ แล้วล้างออก ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยกำจัดเซลลูไลท์ได้เป็นอย่างดีค่ะ

ที่มา http://health.kapook.com/view16951.html

ปอ V12 คว้าแชมป์ทรู เอเอฟ 7




























ปอ V12 คว้าแชมป์ทรู เอเอฟ 7ทุบสตินักล่าฝันอายุน้อยที่สุด

ประกาศ ผลไปอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับปฎิบัติการล่าฝันทรูอคาเดมี แฟนเทเซีย ซีซั่น 7 งานนี้หนุ่มหน้ามนคนภูธร "ปอ V 12 อรรณพ ทองบริสุทธิ์" สามารถคว้าตำแหน่งสุดยอดนักล่าฝันไปครอบครอง พร้อมทำลายสถิติของการเป็นเดอะวินเนอร์ที่มีอายุน้อยสุดเท่าที่เคยมีมา

บรรยากาศในอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ดูคับแคบไปถนัดตา เมื่อเหล่าบรรดาแฟนคลับต่างตบเท้าเข้ามาเชียร์นักล่าฝันกันอย่างล้นหลาม และแล้ววินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อหนุ่มหน้า ปอ V 12 เปิดตัวด้วยละครสั้น ฝีมือ ครูย้ง ทรงยศ สุขมากนันต์ ที่ถ่ายทอดความเป็นปอออกมาแบบเนี๊ยบสุดๆ ด้วยเรื่องราวการตามล่าหาความฝันจนมาถึงเส้นชัยในวันนี้ ซึ่งโยงเข้ากับบทเพลงจังหวะสนุกสนาน "บังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิต"และ เพลง "ที่สูง" ซึ่งปอทำโชว์ออกมาได้ดีไม่มีที่ติ เล่นเอาแฟนคลับทนไม่ไหวลุกขึ้นมาโยกย้ายกันสุดเหวี่ยงแบบทิ้งทวนกันซะหน่อย

ด้าน หนุ่มตี๋ต้น V13 ที่คว้าตำแหน่งรองแชมป์ไปครอง วันนี้หนุ่มต้นนำเอาบทเพลง "กล้าพอไหม”" ของ Potato และ เพลง "It’s my Life" ของ Bon Jovi มาเรียกคะแนนโหวตจากแฟนๆ งานนี้หนุ่มต้นทำได้มันสืสุดเหวี่ยง จน ครูเป็ด วาเนสซ่า หนึ่งในคอมเมนท์ฯ ยกให้เป็นโชว์สุดเจ๋งของค่ำคืนนี้ จากนั้นต่อกันด้วยโชว์มันๆจาก เจ้าของรางวัลที่ 3 หนุ่มบอส V 10 ที่ออกมาโชว์สเต็ปแดนซ์เท้าไฟ ในเพลง "โกหก" และเพลง "ฟ้า" ของ Tatoo Colour ทำเอาคนทั้งฮอลล์ ลุกขึ้นมาร่วมแจมไปกับหนุ่มบอสด้วย จน เดอะปั๋ง ประกาศิต ฟันธงกลางเวทีว่าต้องเป็นตัวเต็งขึ้นแท่นหนึ่งในสามชัวร์

ก่อนที่จะมาถึงช่วงเวลาส่งท้ายไปกับ 12 นักล่าฝัน ที่กลับมารวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง เพื่อร่วมถ่ายทอดบทเพลงสุดซึ้ง ความสุขความทรงจำไม่มีที่สิ้นสุด ของ ธงไชย แมคอินไตย เป็นของขวัญสำหรับแฟนๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้พวกเขามาตลอดทั้งซีซั่น

ด้านหนุ่มปอ แชมป์คนล่าสุดประจำซีซั่น 7 พูดถึงความรู้สึกในการคว้าแชมป์ว่า

"รู้สึกภูมิใจมากๆ ครับ และที่สุดเลยก็ต้องขอขอบคุณแฟนๆ ทุกคนมากด้วยที่ทำให้ผมมีวันนี้ เพราะจากวันแรกผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้เข้าบ้านเอเอฟด้วยซ้ำ เกินคาดมากๆ ครับและฝันที่ผมคิดมาก็สำเร็จแล้ว หายเหนื่อยไปเลยต่อไปก็จะได้มีแรงในการทำงาน ผมฝันอยากเป็นนักร้อง เพราะฉะนั้นก็ต้องขยันมากๆ เพราะว่าทุกคนเขาให้โอกาสเราแล้วครับ"


ที่มา http://women.kapook.com/view17035.html